Friday, March 20, 2009

ความสามัคคี

นิทานโบราณมาเล่าให้ลูกฟัง ในความสามัคคีเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า ช้างกับมดแดง เรื่องมีอยู่ว่า...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีช้างป่าตัวหนึ่งอาศัยหากินอยู่ในป่าที่มีต้นมะม่วงขึ้นอยู่มากมาย เป็นธรรมดาของช้างที่จะเลือกกินแต่ผลมะม่วงที่สุกงอม แต่ในบรรดามะม่วงที่สุกงอมนั้นก็มีมดแดงที่อาศัยอยู่บนต้นมะม่วงนั้น นังของมดแดงจักถูกถักทอด้วยการนำใบมะม่วงมาต่อติดกัน เป็นรังที่อยู่อาศัยของมดแดง และเพื่อการวางไข่สำหรับมดรุ่นต่อไป...
ช้างป่าเมื่อเวลาจักกินมะม่วงที่สุกงอม ก็ใช้งวงอันทรงพลังฟาดทึ้งไปที่ต้นมะม่วงนั้น เพื่อให้ผลมะม่วงหล่นลงมา แต่ช้างตัวนั้นหารู้ไหมว่าได้ฟาดไปถูกรังมดแดงที่กำลังมีไข่อ่อนอยู่เต็มรัง ช้างไม่ใส่ใจที่จักระมัดระวัง กลับใช่งวงฟาดไปที่รังมดแดง ด้วยทะนงตนว่ามดแดงคงไม่สามารถทำอันตรายแก่ช้างที่ตัวใหญ่กว่ามากมายได้
แต่มดแดงเป็นสัตว์ที่มีความสามัคคีมีความร่วมมือกันอย่างสุดชีวิต แม้ว่าช้างจักฟาดงวงไปที่รังของมดแดงจนตกลงไปในบ่อน้ำ เหล่ามดแดงทั้งหลายก็จักยอมพลีตัวเกาะกันต่อเป็นสะพาน เพื่อให้มดแดงตัวอื่นย่ำไปบนตัวของมันเพื่อให้บางตัวรอดพ้นจากการจมน้ำตาย เราเรียกกันว่า สะพานชีวิต ความร่วมมือและช่วยเหลือกันของมดแดงยังมีให้เห็นอยู่ได้แม้ในปัจจุบันนี้

มาพูดถึงมดแดงที่แตกรังอยู่บนต้นไม้ทุกตัว ได้ร่วมมือช่วยกันต่อสู้และป้องกันมิให้ศัตรูมารุกรานรังของมัน แม้ช้างจะเป็นสัตว์ใหญ่ แต่มดแดงตัวเล็กนิดเดียว พวกมันก็ยังล้มช้างตัวนี้ลงได้ ลูกรู้หรือไม่ว่ามันทำเช่นใด? แม่จักบอกให้ก็ได้ว่า พวกมันต่างบุกเข้าไปยังตัวช้าง แล้วเข้าไปในงวงอันมีผิวหนังอ่อน ช่วยกันกัดช่วยกันโจมตีจนกระทั่งช้างต้องล่าถอยด้วยความเจ็บปวด ถูกมดแดงกัดภายในงวงจมูกช้างจนช้างไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ทำให้เจ็บปวดล้มลงตายในที่สุด
คงพอมองเห็นได้แล้วใช่หรือไม่? ว่ามดแดงตัวเล็กๆ สามารถล้มช้างตัวใหญ่ได้ นั่นเป็นเพราะความช่วยเหลือกันอันเป็น ความสามัคคีของมดแดง



ภาพความสามัคคีของมดตัวเล็กๆมาเป็นสิ่งตอบแทนและเชื่อว่าหากสังคมของเรามีความสามัคคีกัน เราก็คงมีความสุข